HAPPY PLENTY แฮ็ปปี้ เพลนตี้

รหัสสินค้า : happy-004

ราคา

1,300.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 1,300.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

แฮ็ปปี้ เพลนตี้ สารอาหารธรรมชาติเพิ่มผลผลิต

HAPPY PLENTY แฮ็ปปี้ เพลนตี้

สารอาหารธรรมชาติเพิ่มผลผลิต

แฮปปี้เพลนตี้ มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบจากธรรมชาติและธาตุอาหารที่จําเป็น ต่อข้าว ไม้ผล, ไม้ดอก, พืชไร่, พืชผักกินผล, ผักกินใบ, หัวหอม, กระเทียม ฯลฯ ใน ช่วงระหว่างการให้ผลผลิตอย่างเหมาะสม ทําให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นในแต่ละรอบการผลิต ทั้งยังเหมาะสําหรับการผลิตผลไม้นอกฤดูและช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยมากกว่า 70%

แฮปปี้เพลนตี้ ประกอบด้วย กล้วย, มะละกอ, เปลือกสับปะรด, ขนุน, หัวไชเท้า, ข้าวโพด, ฟักทอง, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, แคลเซียม, โบรอน, แมกนีเซียม,

เหล็ก, สังกะสี, เนื้อปลา, ข้าวโพดอ่อน และส่วนต่างๆ ของสัตว์

อัตราและวิธีใช้ แฮ็ปปี เพลนต์ ให้ได้ประสิทธิภาพ

> นาข้าว ฉีดพ่น 1-2 ครั้ง ระยะแรกข้าวอายุ 45 วัน ระยะที่สองข้าวอายุ 65 วัน หรือระยะข้าวเริ่มออกรวงและหลังจากตากเกสร 15-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

> พืชไร่ ข้าวโพด ก่อนออกฝัก 7 วัน มันสําปะหลังอายุ 4 เดือน (ฉีดพ่นทางใบ และทางดิน) 15-20 ซีซี ต่อน้ำ20 ลิตร

> ไม้ผล ก่อนออกดอก 1 เดือน และระยะติดผล (10 วัน ฉีด 1 ครั้ง) 15-20 ซีซี ต่อน้ำ20 ลิตร

> พืชผักกินผล ฉีดพ่นระยะติดดอก และระยะติดผล 15-20 ซีซี ต่อน้ำ20 ลิตร ทุกๆ 5-7 วัน/ครั้ง

> ผักกินใบ ก่อนเก็บเกี่ยว 7 วัน ฉีดพ่น 1 ครั้ง 15-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

>ไม้ดอก ฉีดพ่นระยะออกดอก 15-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกๆ 5-7 วัน/ครั้ง

> หัวหอม, กระเทียม ฉีดพ่นระยะลงหัว 1-2 ครั้ง 15-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

ตารางเปรียบเทียบ แฮ็ปปี เพลนต์ กับ สารเคมีในท้องตลาด

สารอาหารธรรมชาติเพิ่มผลผลิต HAPPY PLENTY

สินค้าสารเคมีในท้องตลาด

1. พืชอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารจากธรรมชาติ

1. พืชมีการเจริญเติบโตได้ด้วยการเร่งที่ผิดธรรมชาติ

2. ผู้ผลิตและผู้บริโภคปลอดภัยจากสารพิษ

2. ผู้ผลิตและผู้บริโภคได้รับอันตรายจากสารเคมี

3. ช่วยยืดระยะเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้น

3. ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวสั้น พืชโทรมไวเพราะถูกเร่งด้วยสารเคมี

4. ผลผลิตได้รูปทรงสวยงามตามธรรมชาติ

4. มีผลผลิตที่รูปทรงผิดเพี้ยน หรือไม่ได้มาตรฐาน

5. ผลิตภัณฑ์มีราคาไม่แพง แต่ได้ผลตอบแทนสูง

5. ผลผลิตมีราคาแพง ต้นทุนสูง การผลิตสูง

6. มีธาตุอาหารตรงตามระยะที่พืชต้องการโดยเฉพาะ

6. ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด

7. มีสี รสชาติธรรมชาติ ไม่มีสารพิษตกค้าง

7. มีสารเคมีตกค้าง

8. รักษาสมดุลธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสภาพแวดล้อม

8. มีผลกระทบกับสภาพแวดล้อม

9. ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้เกิดประโยชน์

9. สูญเสียเงินตราทําให้ขาดดุลการค้า

10. ไม่ต้องเพิ่มปริมาณการใช้

10. ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้น

11. เป็นที่ต้องการของตลาด ผลผลิตขายได้ราคาดี

11. ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด

12. ลดมลพิษสารเคมี ไม่ทําลายระบบนิเวศ

12. เพิ่มมลพิษ และทําลายระบบนิเวศ

13. ลดต้นทุนการผลิต

13. ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เพราะต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ

14. มีธาตุอาหารหลากหลายชนิดเพิ่มเติม

14. ต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด

15. เป็นระบบการเกษตรแบบยังยืน

15. เป็นระบบการเกษตรที่ไม่ยั่งยืน